ประภัตร ประสานมือทุกฝ่ายช่วยเหลืออุทกภัยที่อ่างทอง "ทำด้วยใจ ทำได้จริง ไม่ทอดทิ้งใคร"
วันศุกร์ที่ 1 กรกฎาคม 2565 เวลา 10.30 น. จังหวัดอ่างทอง เปิดโครงการปศุสัตว์ร่วมใจกำจัดภัยโรคพิษสุนัขบ้า เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ภายใต้โครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธานฯ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ณ สำนักงานเทศบาลตำบลวิเศษไชยชาญ อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง โดยมี นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานในพิธี ผู้แทนนายกเทศมนตรีตำบลวิเศษไชยชาญ กล่าวต้อนรับ และนายชัยยุทธ เหลืองบุศราคัม ปศุสัตว์จังหวัดอ่างทอง กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัด โครงการฯ ว่า ในวันที่ 4 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันคล้ายวันประสูติของ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี กรมปศุสัตว์จึงได้จัดทำโครงการปศุสัตว์ร่วมใจ กำจัดภัยโรคพิษสุนัขบ้า ภายใต้การขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ การดำเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัยจากโรคพิษสุนัขผลการดำเนินงานฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และผ่าตัดทำหมันสุนัขแมว รวมทั้งหมด 90 ตัว
วันที่ 15 มีนาคม 2565 เวลา 14.00น. นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ลงพื้นที่ตรวจติดตามสถานการณ์เฝ้าระวังโรคลัมปีสกินในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยนายไพบูลย์ ศุภบุญ นายอำเภอวิเศษชัยชาญ น.สพ.ประภาส ภิญโญชีพ ปศุสัตว์เขต 1 ปศุสัตว์จังหวัดอ่างทองและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้
อธิบดีกรมปศุสัตว์ตรวจติดตามสถานการณ์เฝ้าระวังและควบคุมโรคลัมปี สกิน ในพื้นที่จังหวัดอ่างทองมีเกษตรกรผู้เลี้ยงโค -กระบือ จำนวน 1,601 ราย จำนวนโครวม 12,708 ตัว กระบือรวม 793 ตัว จำนวนเกษตรกรที่พบโคป่วยด้วยโรคลัมปี สกิน ในจังหวัดอ่างทอง มีจำนวนทั้งหมด 218 ราย จำนวนโคที่ป่วยโรคลัมปี สกินสะสม จำนวน 550 ตัว พบสัตว์ป่วยที่แรกที่ อำเภอสามโก้ เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2564 และได้พบสัตว์ตายตัวแรก วันที่ 4 มิถุนายน 2564 ที่อำเภอสามโก้ มีจำนวนสัตว์ที่เสียชีวิตจากโรคลัมปี สกินทั้งหมดจำนวน 122 ตัว ปัจจุบัน ณ วันที่ 15 มีนาคม 2565 ไม่พบการเกิดโรคลัมปี สกิน ภายในจังหวัดอ่างทองแล้วสำหรับจังหวัดอ่างทองมีการรณรงค์ฉีดวัคนป้องกันโรคลัมปี สกิน ให้แก้โค-กระบือในระหว่างเดือนกรกฎาคม - ธันวาคม 2564 โดยได้ดำเนินการฉีดวัคซีนฯให้กับโค-กระบือในพื้นที่ 7 อำเภอของจังหวัดอ่างทอง โดยผลการดำเนินการตามแผนเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคลัมปี สกิน ของจังหวัดอ่างทอง ได้รับวัคซีนฯมาทั้งสิ้น 6,960 โด้ส ดำเนินการฉีดโคเนื้อ และกระบือได้รวม 6,941 ตัว สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดอ่างทอง ได้ ประกาศเป็นเขตโรคระบาดด้วยโรคลัมปี สกินเมื่อวันที่19
พฤษภาคม 2564 จำนวนเกษตรกรที่มีโคตาย และได้รับการช่วยเหลือ จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีทั้งหมดจำนวน 93 ราย จำนวนโค 114 ตัว ซึ่งเป็นจำนวนเงินทั้งหมด 2,070,500 บาท และได้ทำการชดเชยไปแล้วจำนวนเกษตรกร 62 ราย จำนวนโค 81 ตัว ซึ่งเป็นเงิน จำนวน 462,500 บาท และยังคงเหลือที่ยังไม่ได้ค่าชดเชย เกษตรกรทั้งหมด 31 ราย จำนวนโค 33 ตัว และจำนวนเงิน จำนวน 1,608,000 บาท ซึ่งให้การช่วยเหลือเกษตรกรตามหลักเกณฑ์ของกรมปศสัตว์
ด้านอธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อมูลสัตว์ป่วยรายวันพบว่าลดเหลือจำนวนน้อยมาก และกรมปศุสัตว์คาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะสามารถขอคืนสถานะปลอดโรคลัมปี สกิน ได้ในไม่ช้าเนื่องจากยังไม่มีการรายงานอุบัติการเกิดโรคเพิ่มขึ้นแต่อย่างใดสำหรับแนวทางในการพัฒนาวัคซีนลัมปีสกินโดยได้มอบหมายให้สำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์และสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการผลิตวัคซีนโรคลัมปีสกิน สำหรับใช้ป้องกันและควบคุมโรคกรณีฉุกเฉิน โดย สทช. ได้ทำการศึกษาการผลิตวัคซีนในระดับห้องปฏิบัติการ (Lab scale) ด้วยไวรัสที่แยกได้จากตัวอย่างสัตว์ป่วยในประเทศไทย และใช้เทคโนโลยีการผลิตไวรัสจากเชลล์เพาะเลี้ยงเพื่อให้มีปริมาณวัคซีนเพียงพอต่อความต้องการใช้เพื่อการควบคุมและป้องกันสทช. ได้ศึกษาความเป็นไปได้เพื่อขยายกำลังการผลิตแอนติเจนไวรัสด้วยเทคโนโลยีสำหรับการเพาะเลี้ยงเซลล์ชนิดเกาะผิว (adherent cell) ได้แก่ ในรูปแบบ Large scale Roller technology และ Microcarrier technology ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีกำลังการผลิตเป็นวัคนสำเร็จรูปมากถึง 500,000โด๊ส ต่อเดือน และช่วยลดรายจ่ายการนำเข้าวัคซีนจากต่างประเทศ ลดการป่วยตายและความสูญเสียโค กระบือของซึ่งเป็นผลกระทบที่เดือดร้องของเกษตร อีกทั้งเป็นความมั่นคงด้านวัคซีนสัตว์ของประเทศต่อไป
นอกจากนี้อธิบดีกรมปศุสัตว์มีความห่วงใยเกษตรกร โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณามาตรการช่วยเหลือ เยียวยาเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบตามหลักเกณฑ์ของหน่วยงานราชการ พร้อมประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้เข้าใจถึงโรคลัมปี สกิน (Lumpy Skin Disease) ในโค กระบือ เพื่อไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก พร้อมกับเข้าใจถึงแนวทางการรับมือ ควบคุมและป้องกันโรคอย่างถูกต้องและขอให้พี่น้องเกษตรกรหมั่นดูแลสุขภาพของโค-กระบือ ให้มีสุขภาพแข็งแรง หากพบสัตว์มีอาการผิดปกติ สงสัยว่าป่วยให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัด หรือปศุสัตว์อำเภอในท้องที่ หรือโทรศัพท์สายด่วน 06-3225-6888 หรือทางแอพพลิเคชั่น DLD4.0 เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าดำเนินการให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
ณ อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง
วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 2565 จังหวัดอ่างทอง เวลา 10.00 น. นายสุรเดช สมิเปรม ผู้ตรวจราชการการะทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงเกษรและสหกรณ์ในระดับพื้นที่ เข้าพบนายวิระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เพื่อหารือข้อราชการด้านการเกษตร ณ ห้องปฏิบัติราชการผู้ว่าราชการจังหวัด ศาลากลางจังหวัดอ่างทอง เวลา 10.50 น. ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมเยียน สร้างขวัญกำลังใจให้แก่เกษตร
จุดที่ 1 บริษัท อเนก ฟาร์ม จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายนกกระทาแบบครบวงจร ปราชญ์เกษตรของแผ่นดิน (นายอเนก สีเขียวสด) พร้อมด้วยประธานสภาเกษตร และผู้ที่เกี่ยวข้อง ต.ป่างิ้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง ได้รับความร่วมมือจากหลายส่วน ในการจัดทำนวัตกรรมการทำไข่แดงเซ็นเตอร์ เวลา 13.30 น. จุดที่ 2 แปลงใหญ่ชะอม ต.โพธิ์รังนก อ.โพธิ์ทอง จ.อ่างทอง และดูงานแปลงชะอมโดยมีนายพยง คุ้มสกุลณี ประธานกลุ่ม มีสมาชิก 71 ราย พื้นที่ 180 ไร่ กลุ่มแปลงใหญ่ ทางกลุ่มเกษตรกรมุ่งเน้นเรื่องการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มผลผลิต และจัดหาช่องทางการตลาด โดยได้รับการสนับสนุนและการตอบรับจากส่วนราชการเป็นอย่างดี ผลผลิตยอดชะอม ทำเป็นธุรกิจมีการพัฒนา และมีช่องทางการตลาด มีรถห้องเย็นไปจัดส่งตลาดไท
สำหรับข้อสั่งการของท่านผู้ตรวจฯ
1. ขอให้หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ทุกภาคส่วนในพื้นที่ช่วยกันบูรณาการร่วมกันเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่
2. ขอให้ปศุสัตว์จังหวัดและ สถานีพัฒนาที่ดินจังหวัด บูรณาการร่วมกันในการจัดทำปุ๋ยจากมูลแพะ โดยเริ่มทดลองใช้ในโครงการแปลงใหญ่ชะอมภายในเดือนพฤษภาคม
วันที่ 24 มกราคม 2565 นายชัยยุทธ เหลืองบุศราคัม ปศุสัตว์จังหวัดอ่างทอง ร่วมกับ พล.ต.ต. วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ภ.จว.อ่างทอง พาณิชย์จังหวัดอ่างทอง นายอำเภอเมืองอ่างทอง หัวหน้าด่านกักกันสัตว์พระนครศรีอยุธยา ผู้แทนผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดอ่างทองและผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เก็บเนื้อสุกร ชำแหละ ณ ห้างหุ้นส่วนจำกัด อ่างทองเจริญกิจ (ห้องเย็นอ่างทอง) ตำบลป่างิ้ว อำเภอเมืองอ่างทอง จังหวัดอ่างทอง โดยการนำของ ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง (นางสาวเอกรัตน์ นาคาคง) ผลการตรวจสอบไม่พบการกักตุนเนื้อสุกรชำแหละ และสินค้าปศุสัตว์ในปริมาณที่ผิดปกติ
นอกจากนั้น คณะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านจำหน่ายเนื้อสุกร เนื้อสัตว์ปีก ณ ตลาดสดเทศบาลเมืองอ่างทอง และห้างเทสโก้ โลตัส สาขาอ่างทอง ผลการตรวจสอบราคาจำหน่าย ไม่มีการปรับราคาที่สูงขึ้น ไม่พบการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด